ตาบอดสี ภาวะการมองเห็นที่หลายคนไม่รู้ว่าตัวเองมี
- tbfc1000
- 6 ต.ค.
- ยาว 1 นาที
เคยไหม…เวลาเราพูดถึง “ตาบอดสี” หลายคนมักนึกว่ามองไม่เห็นอะไรเลย แต่จริง ๆ แล้วคนที่มีภาวะตาบอดสียังคงมองเห็นโลกใบนี้ได้ชัดเจนเหมือนเรา เพียงแค่ “สีสัน” บางเฉดอาจแตกต่างออกไปเท่านั้น

ตาบอดสี (Color Blindness) เป็นภาวะการมองเห็นที่ดวงตาไม่สามารถแยกแยะสีบางสีได้เหมือนคนทั่วไป หลายคนอาจไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามีภาวะนี้ เพราะตาบอดสีไม่ได้ทำให้สายตามืดบอด แต่ทำให้รับรู้สีแตกต่างไป เช่น เห็นไฟจราจรเป็นสีที่สับสน หรือแยกเฉดสีในกราฟไม่ออก
แม้ตาบอดสีจะไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่ก็ส่งผลต่อการใช้ชีวิตและการเลือกอาชีพบางประเภท การทำความเข้าใจภาวะนี้จะช่วยให้ผู้ที่เป็นอยู่สามารถปรับตัวและใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจ
ตาบอดสีเกิดจากอะไร? สาเหตุหลัก ๆ มีดังนี้
1. พันธุกรรม เป็นสาเหตุที่พบมากที่สุด เกิดจากความผิดปกติของเซลล์รับแสงในจอตา (Cone Cells) โดยมักถ่ายทอดผ่านโครโมโซม X ทำให้เพศชายมีโอกาสเป็นมากกว่าเพศหญิงหลายเท่า
2. อายุที่มากขึ้น การเสื่อมของดวงตาตามวัยอาจทำให้การรับรู้สีลดลง
3. โรคตาบางชนิด เช่น ต้อหิน เบาหวานขึ้นตา หรือจอประสาทตาเสื่อม
4. ผลจากยาและสารเคมี ยาบางชนิดหรือการสัมผัสสารเคมีเป็นเวลานานสามารถเปลี่ยนการรับรู้สีได้
ประเภทของตาบอดสี
🔴 ตาบอดสีแดง–เขียว (Red-Green Deficiency)
พบมากที่สุด ผู้ป่วยมักสับสนระหว่างโทนสีแดงกับเขียว ซึ่งเป็นสีที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน เช่น สัญญาณไฟจราจร
🔴 ตาบอดสีน้ำเงิน–เหลือง (Blue-Yellow Deficiency)
พบได้น้อยกว่า ทำให้แยกสีฟ้ากับสีเหลืองได้ยาก
🔴 ตาบอดสีสมบูรณ์ (Complete Color Blindness)
พบได้น้อยมาก ผู้ที่เป็นจะมองเห็นเพียงเฉดสีเทา คล้ายภาพขาวดำ
ผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน
ตาบอดสีอาจดูไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แต่ก็มีผลต่อหลายด้าน เช่น
🔴 การขับรถ: อาจสับสนสัญญาณไฟแดง–เขียว
🔴 การเรียนและการทำงาน: อ่านแผนที่ กราฟ หรือแผนภูมิได้ยาก
🔴 การเลือกอาชีพ: บางสาขา เช่น นักบิน วิศวกรไฟฟ้า แพทย์เฉพาะทาง หรือนักออกแบบ ต้องใช้การแยกสีอย่างแม่นยำ
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีตาบอดสียังคงใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ เพียงแต่ต้องปรับตัว เช่น การจดจำตำแหน่งของไฟจราจร หรือใช้เครื่องมือช่วย
การตรวจวินิจฉัย
วิธีที่นิยมมากที่สุดคือ การทดสอบอิชิฮาระ (Ishihara Test) ซึ่งเป็นสมุดภาพวงกลมที่ประกอบด้วยจุดสีหลากหลาย ภายในมีตัวเลขซ่อนอยู่ หากผู้ตรวจมองไม่เห็นตัวเลขบางภาพ แสดงว่ามีภาวะตาบอดสี
นอกจากนี้ยังมีการทดสอบด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ที่ละเอียดกว่า ซึ่งใช้ในกรณีที่ต้องตรวจเพื่อยืนยันในการเลือกอาชีพ
การรักษาและการดูแล
🔴 ตาบอดสีที่เกิดจากพันธุกรรม ปัจจุบันยังไม่มียารักษาให้หายขาด แต่สามารถใช้แว่นตาหรือเลนส์พิเศษช่วยเพิ่มความสามารถในการแยกสีได้บ้าง
🔴 ตาบอดสีที่เกิดจากโรคหรือยา : หากรักษาโรคต้นเหตุหรือหยุดใช้ยาที่มีผลข้างเคียง อาการอาจดีขึ้น
🔴 การปรับตัวในชีวิตประจำวัน การใช้แอปพลิเคชันช่วยระบุสี หรือการจัดสิ่งของด้วยระบบสัญลักษณ์/ตำแหน่งแทนการใช้สี
สรุป
ตาบอดสีไม่ใช่โรคร้ายแรงและไม่ทำให้ตาบอด แต่เป็นภาวะการมองเห็นที่มีผลต่อการแยกสี หากสงสัยว่าตนเองหรือบุตรหลานมีภาวะนี้ ควรเข้ารับการตรวจจากจักษุแพทย์ เพื่อจะได้วางแผนปรับตัว ใช้ชีวิต และเลือกเส้นทางอาชีพได้อย่างเหมาะสม



ความคิดเห็น