ต้อกระจก (Cataract) คืออะไร
- tbfc1000
- 2 ก.ย.
- ยาว 1 นาที
ต้อกระจกเกิดจากเลนส์ตาขุ่น ไม่ใสเหมือนเดิม ทำให้การมองเห็นพร่ามัว คล้ายมีหมอกบัง หากปล่อยทิ้งไว้อาจสูญเสียการมองเห็นได้

🌏 สาเหตุที่พบบ่อย
- อายุ (พบมากในผู้สูงอายุ)
- กรรมพันธุ์
- โรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน
- อุบัติเหตุหรือการบาดเจ็บที่ตา
- การใช้ยาบางชนิด เช่น สเตียรอยด์
- การสัมผัสแสงแดดรังสี UV สูบบุหรี่ หรือดื่มแอลกอฮอล์
🌏 อาการของต้อกระจก
- มองเห็นมัว สีหม่นลง
- เห็นแสงแตกกระจาย แพ้แสง
- มองเห็นภาพซ้อนในตาข้างเดียว
- ต้องเปลี่ยนแว่นบ่อย แต่สายตาไม่ดีขึ้น
🌏 ประเภทของต้อกระจก
- ตามอายุ (พบบ่อยที่สุด)
- จากโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน
- จากอุบัติเหตุ
- จากการใช้ยา โดยเฉพาะสเตียรอยด์
- ตั้งแต่กำเนิด
🌏 การรักษา
- ระยะเริ่มต้น แก้ได้โดยใช้แว่นตา เลนส์ขยาย หรือเพิ่มแสงสว่างช่วยอ่าน
- ระยะรบกวนชีวิตประจำวัน แก้ได้โดยผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์ตาเทียม (IOL) ถือเป็นวิธีที่ได้ผลที่สุด ปลอดภัย ฟื้นตัวเร็ว
หลังผ่าต้อกระจก สามารถมองเห็นดีขึ้นภายในไม่กี่วัน ควรหลีกเลี่ยงขยี้ตา ยกของหนัก ว่ายน้ำ ในช่วงแรก และควรมาตรวจตามนัด
🌏 ใส่แว่นได้เมื่อไหร่?
แม้ใส่เลนส์ตาเทียมแล้ว บางคนยังต้องใช้แว่น เช่น สำหรับอ่านหนังสือ หรือแก้สายตาเอียงเล็กน้อย โดยทั่วไป ควรตัดแว่นใหม่หลังผ่าตัดประมาณ 4–6 สัปดาห์ เพื่อให้สายตาคงที่ก่อน
🌏 การป้องกัน
- ใส่แว่นกันแดดป้องกันรังสี UV
- เลี่ยงบุหรี่และแอลกอฮอล์
- ควบคุมระดับน้ำตาลและความดันโลหิต
- กินอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผักผลไม้สด
- ตรวจสุขภาพตาเป็นประจำ โดยเฉพาะอายุเกิน 40 ปี
🌏 สรุป
ต้อกระจกเป็นโรคตาที่พบได้บ่อย แต่สามารถรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์ตาเทียม หากดูแลสุขภาพ ป้องกัน และตรวจตาเป็นประจำ จะช่วยให้มองเห็นชัดและคุณภาพชีวิตดีขึ้น



ความคิดเห็น